นอวาก จอกอวิช (เซอร์เบีย: Новак Ђоковић, ออกเสียง: [nôʋaːk dʑôːkoʋitɕ];[5] เกิด 22 พฤษภาคม ค.ศ. 1987) เป็นนักเทนนิสอาชีพชายชาวเซอร์เบีย มือวางอันดับ 1 ของโลกคนปัจจุบัน[6] เขาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เก่งที่สุดตลอดกาล[7] เจ้าของตำแหน่งชนะเลิศรายการแกรนด์สแลมประเภทชายเดี่ยวจำนวน 18 สมัย (รวมทั้งสถิติชนะเลิศ ออสเตรเลียนโอเพน 9 สมัย[8]) จอกอวิชเป็นผู้เล่นคนเดียวที่ชนะเลิศรายการ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ มาสเตอร์ 1000 ครบทั้ง 9 รายการ และ เป็นหนึ่งในสองผู้เล่นที่ทำสถิติชนะเลิศรายการดังกล่าวได้มากที่สุดจำนวน 36 สมัย (สถิติร่วมกับ ราฟาเอล นาดัล) เขายังเป็นผู้เล่นที่ครองตำแหน่งมือวางอันดับหนึ่งของโลกด้วยจำนวนสัปดาห์รวมที่มากที่สุดตลอดกาลจำนวน 322 สัปดาห์[9][10][11] และ ได้รับรางวัลนักเทนนิสยอดเยี่ยมประจำปีของ เอทีพี ทัวร์ 6 สมัยรวมทั้งคว้าตำแหน่งมือวางอันดับหนึ่งของโลกเมื่อจบสิ้นปี 6 ครั้ง (สถิติอันดับหนึ่งในยุคโอเพน เท่ากับ พีต แซมพราส)[12] อีกทั้งยังเป็นผู้เล่นคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าแชมป์รายการใหญ่ในการแข่งขันของ เอทีพี ทัวร์ ได้ครบทุกรายการ ได้แก่ การคว้าตำแหน่งชนะเลิศแกรนด์สแลมได้ครบทั้ง 4 รายการ, ชนะเลิศรายการ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ มาสเตอร์ 1000 ได้ครบทั้ง 9 รายการ และ ชนะเลิศรายการ เอทีพี ทัวร์ ไฟนอลได้อย่างน้อย 1 สมัย[13]จอกอวิชครองสถิติโลกในยุคโอเพนมากมาย เช่น เป็นผู้เล่นชาวเซอร์เบียคนแรกที่คว้าตำแหน่งชนะเลิศรายการแกรนด์สแลมได้, เป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศแกรนด์สแลมได้ครบทุกรายการ (ทั้งแบบต่อเนื่องกัน 4 รายการ และแบบไม่ต่อเนื่องกัน) โดยทำสถิติได้ในค.ศ. 2008 (อายุ 21 ปี), เป็นผู้เล่นคนเดียวที่ชนะเลิศรายการออสเตรเลียนโอเพน 3 สมัยติดต่อกัน (ค.ศ. 2011 - ค.ศ. 2013 และ ค.ศ. 2019 - ค.ศ. 2021), ทำสถิติเอาชนะผู้เล่นในกลุ่มอันดับ Top 10 ได้ถึง 30 ครั้งในปีเดียวกันและเอาชนะผู้เล่นกลุ่ม Top 10 ได้ครบทุกคนในปีเดียวกันในปี 2015, เป็นผู้เล่นคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่สามารถเข้าชิงชนะเลิศรายการแกรนด์สแลมได้ครบทุกรายการภายในปีเดียวกัน (ต่อจาก ร็อด เลเวอร์ และ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์), เป็นผู้เล่นที่ครองตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ของโลกด้วยคะแนนที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (จำนวน 16,950 คะแนนใน ค.ศ. 2015)[14] และ ครองตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ด้วยจำนวนสัปดาห์รวมที่มากที่สุดตลอดกาลโดยทำสถิติแซง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ได้ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2021[15] รวมทั้งทำสถิติชนะเลิศรายการเอทีพีเวิลด์ทัวร์มาสเตอร์ 1000 ได้ครบทุกรายการโดยชนะเลิศแต่ละรายการได้อย่างน้อย 2 สมัย[16] อีกทั้งยังเป็นผู้เล่นที่ทำเงินรางวัลรวมจากการแข่งขันได้มากที่สุดตลอดกาล (จำนวน 148 ล้านเหรียญสหรัฐ)[17]จอกอวิชชนะเลิศการแข่งขันแกรนด์สแลมในประเภทชายเดี่ยวจำนวน 18 สมัย ประกอบด้วยสถิติชนะเลิศออสเตรเลียนโอเพน 9 สมัย สูงที่สุดตลอดกาลในประเภทชายเดี่ยว[18], วิมเบิลดัน 5 สมัย, ยูเอสโอเพน 3 สมัย และ เฟรนช์โอเพน 1 สมัย จากการที่จอกอวิชสามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศแกรนด์สแลมได้ถึง 3 รายการในปีเดียวกัน (ออสเตรเลียนโอเพน, วิมเบิลดัน และ ยูเอสโอเพน ใน ค.ศ. 2011 และ ค.ศ. 2015) ทำให้เขากลายเป็นนักเทนนิสชายคนที่ 6 ในยุคโอเพนที่ทำสถิติดังกล่าวได้ และ ภายหลังจากชนะเลิศรายการ เฟรนช์โอเพน ค.ศ. 2016 ทำให้เขาเป็นผู้เล่นชายคนที่ 8 ที่สามารถคว้าแกรนด์สแลมได้ครบทั้ง 4 รายการ (Career Grand Slam)[19] ยิ่งไปกว่านั้น ภายหลังจากชนะเลิศรายการวิมเบิลดันได้ใน ค.ศ. 2018 ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นชายคนที่สี่ในยุคโอเพน (ต่อจาก โรเจอร์ เฟเดอเรอร์, พีต แซมพราส และ บียอร์น บอร์ก) ที่สามารถคว้าแชมป์วิมเบิลดันได้อย่างน้อย 4 สมัย[20] จอกอวิชยังชนะเลิศรายการ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล 5 สมัย และ คว้าเหรียญทองแดงในประเภทชายเดี่ยวจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ณ กรุงปักกิ่ง ได้ใน ค.ศ. 2008 รวมทั้งคว้าแชมป์โลกร่วมกับทีมชาติเซอร์เบียในการแข่งขัน เดวิส คัพ ค.ศ. 2010 และ เขายังเคยดำรงตำแหน่งประธานสภานักเทนนิสของ เอทีพี ทัวร์ เป็นระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ปี 2016 - 2020[21]เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับเกียรติให้มีรูปอยู่ในสแตมป์ของประเทศเซอร์เบียโดยสแตมป์ดังกล่าวถูกผลิตใน ค.ศ. 2008 เป็นรูปจอกอวิชถือถ้วยแชมป์ออสเตรเลียนโอเพน ทั้งนี้เพื่อเป็นการยกย่องและเชิดชูเกียรติให้แก่จอกอวิชภายหลังจากที่เขาคว้าตำแหน่งชนะเลิศรายการออสเตรเลียนโอเพน ได้สำเร็จซึ่งเป็นการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา และ ยังเป็นนักเทนนิสชาวเซอร์เบียคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัลนักกีฬาชายยอดเยี่ยมแห่งปีของโลก (Laureus World Sportsman of the Year ) จำนวน 4 สมัย[22] จอกอวิชเป็นผู้เล่นที่ยอดตำนานหลายคน เช่น บอริส เบกเคอร์, อานเดร แอกัสซี และ พีต แซมพราส ให้การยกย่องว่าฝีมือของเขาไม่ได้ด้อยกว่าผู้เล่นตำนานคนอื่นๆและจากความสำเร็จตลอดอาชีพที่ผ่านมาทำให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเทนนิสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล[23]